วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เปิดตำนาน Nissan Skyline C10 มีเงินแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้ เพราะไม่มีใครกล้าขาย !!



         ซีรีส์ C10 เริ่มขึ้นในปี1968 เริ่มพัฒนาภายใต้บริษัท ปรินซ์ ที่ Ogikubo R&D ในเขตชานเมืองของกรุงโตเกียว และทำตลาดภายใต้ชื่อนิสสัน 

ในช่วงเวลาที่C10ออกจำหน่าย ชื่อของปรินซ์ก็ค่อยหายไปทั้งในรถเก๋งและรถบรรทุก สกายไลน์ C10 เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ G15 1.5ลิตร OHC และเครื่อง G18 1.8ลิตร ด้วย รุ่นสเตชั่นวาก้อนที่รู้จักก่อนหน้านี้ในชื่อ ปรินซ์ สกายเวย์ (Prince Skyway) ก็ถูกนำเสนอในช่วงนี้ด้วย





รุ่นคูเป้ฮาร์ดท็อปถูกนำเสนอในเดือนตุลาคม 1970 ไฟท้ายมีการแก้ไขจากเดิมที่เป็นสีเหลี่ยนชิ้นเดียว เป็นไฟท้ายสี่เหลี่ยมคู่ในแต่ละข้าง ในฐานะที่สกายไลน์เป็นผลิตภัณฑ์ของนิสสัน มันถูกจัดระดับไว้เหนือกว่า บลูเบิร์ด โดยเป็นสปอร์ตคูเป้โดยแท้ ในขณะที่บลูเบิร์ดนั้นยังคงเน้นไปทางความประหยัดมากกว่า
นิสสัน สกายไลน์ C10 ซีรีส์ 1500

ซีรีส์1500 แทนที่ S50 ในเดือนกรกฎาคมปี 1968 รวมถึงรุ่น1800ที่มาในภายหลัง มันถูกสร้างขึ้นจนกระทั่งปี 1972 มีจำหน่ายในซีดาน 4 ประตูและแวน Skyline C10 1500 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ 1,483ซีซี G15 1 จากรุ่น S57 ก่อนหน้านี้ ผลิตกำลัง 94 แรงม้าและแรงบิด130นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น 1800 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์1,815 ซีซี G18 กับ 105 แรงม้าและแรงบิด147นิวตัน-เมตร รถคันนี้ส่วนใหญ่ใช้ชิ้นส่วนจากปรินซ์และมันเป็น Skyline รุ่นสุดท้ายที่จะออกมาพร้อมกับโลโก้ปรินซ์ Skylineต่อจากนี้ทุกคันจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นนิสสัน



นิสสัน สกายไลน์ GC10 2000GT
เริ่มแนะนำในปี1968 (2 เดือนหลังจากซีรีส์ 1500) เริ่มแรกมาในรูปแบบรถซีดาน 4 ประตู (GC10) และรุ่นรถ 5 ประตู และในปี1970 ก็มีรุ่น2ประตู (KGC10) ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์2.0ลิตร L20 6สูบแถวเรียง 105แรงม้า เหมือนกับนิสสัน เซดริค แทนเครื่องยนต์ปรินซ์ G7 แชสซีได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้พอดีกับเครื่องยนต์ที่ยาวขึ้น

นิสสัน สกายไลน์ GC10 2000GT-X
2000 GT-X ปรากฏตัวในเดือนกันยายนปี 1971 และได้รับการขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์คาร์บุเรเตอร์คู่ รหัสเครื่อง L20T ผลิตกำลัง130แรงม้า 2000 GT-X ที่ทั้งรูปแบบซีดานและคูเป้2ประตู และติดตั้งกระจกประตูแบบไฟฟ้าเป็นมาตรฐาน

นิสสัน สกายไลน์ PGC10 - KPGC10 2000 GT-R
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี1969 ได้เปิดตัว PGC10 ในรูปแบบ4ประตูซีดานเท่านั้น และ2ปีต่อมาในเดือนมีนาคม 1971 จึงเปิดตัวรุ่น2ประตูคูเป้ KPGC10 ตามออกมา โดยมันถูกเรียกว่า Hakosuka โดยแฟนๆของสกายไลน์ คำว่า”Hako” หมายความว่า”กล่อง”ในภาษาญี่ปุ่น(ประมาณรถทรงกล่อง) ส่วนคำว่า “suka” คือชื่อเรียกสั้นๆของสกายไลน์ (คนญี่ปุ่นจะออกเสียง Skyline ว่า Sukairain)
มันถูกออกแบบด้วยความคิดที่จะนำมาใช้ในการแข่งขัน ด้วยประสิทธิภาพและชัยชนะหลายครั้งทำให้มันสร้างชื่อ “Skyline GT-R legend”ที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้



สิ่งสำคัญที่สุดของความสำเร็จในการแข่งขันของGT-Rคือเครื่องยนต์ S20 2.0ลิตร 1,989ซีซี DOHC 24วาล์ว 6สูบแถวเรียง 160 แรงม้า ติดตั้งคาร์บูเรเตอร์WEBER 40DCOE 3ชุด ซึ่งมีความคล้ายกับเครื่องยนต์GR8ของรถแข่งR380 ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์5สปีด หากแทนที่ด้วยชุดหัวฉีดกลไลของลูคัสจะทำให้เพิ่มกำลังได้ถึง230-250แรงม้า

ระบบช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัทในด้านหน้าและเซมิเทรลลิ่งอาร์มในด้านหลัง ทำให้GT-Rสามารถใช้ประสิทธิภาพของกำลังของเครื่องยนต์ บนถนนได้อย่างเต็มที่
ในการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับGC10คือซุ้มล้อหลังที่มีขนาดกว้างขึ้น ซึ่งทำให้ “Surfline”ด้านข้างรถนั้นขาดหายไปบ้าง(เส้นสันบริเวณซุ้มล้อหลัง) และสัญลักษณ์GTที่ติดบนตัวรถก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากเดิมสีฟ้าในรุ่นGC10

ในวันที่7 มีนาคม 1971 KPGC10 รุ่น2ประตูคูเป้ของGT-R ได้เปิดตัวขึ้น สำหรับบอดี้นี้จะมีฐานล้อที่สั้นกว่าจาก103.9นิ้ว(2,640มม.)เป็น101.2นิ้ว(2,570มม.)และนำหนักลดลง20กก. เนื่องจากต้องการประสิทธิภาพจึงปรับปรุงในเรื่องแอโร่ไดนามิกส์ โดยมีการติดตั้งสปอยเลอร์หลังเป็นออฟชั่นด้วย การควบคุมรถนั้นเหนือกว่ารุ่นPGC10 เพราะใช้ยางที่ใหญ่และกว้างขึ้นจึงต้องมีการขยายความกว้างซุ้มล้อออกไปอีก

ในรุ่น4ประตู PGC10 นั้นมีอาการอันเดอร์สเตียร์มาก ซึ่งเกิดจากฐานล้อที่ยาวและยางมีความยึดเกาะต่ำ ในการแข่งขันนักแข่งต้องเบรคอย่างรุนแรงในโค้งเพื่อให้รถมีอาการท้ายรถออกข้างเพื่อการเข้าโค้งในลักษณะการดริฟท์ ซึ่งดูสวยงามน่าตื่นเต้นเป้นที่ชื่นชอบของแฟนๆสกายไลน์ แต่ความตื่นเต้นนั้นกลับทำให้นักแข่งต้องเหนื่อยมากขึ้นและมันไม่ได้ทำให้รถวิ่งเร็วขึ้นเลย

นิสสันจึงต้องแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้วยการขยายความกว้างและลดระยะฐานล้อลง ทำให้มันเร็วกว่าPGC10และเพิ่มจำนวนชัยชนะในบัญชีของGT-R

รถแข่งGT-R ในรูปแบบ4ประตูซีดานคว้าชัยชนะได้33ครั้ง ภายในช่วงเวลา2ปี และรุ่น2ประตูคูเป้ก็คว้าชัยชนะต่อเนื่องได้อีกจนถึง50ครั้ง และการผลิตก็หยุดลงในปี 1972

C10 แข่งกับรถหลายคันรวมทั้ง โตโยต้าโคโรน่า 1600GT (RT55) , อีซูซุ Bellett GTR, มาสด้า Familia (R100) และCapella ( RX-2 ) หรือแม้กระทั่งพอร์ช ในช่วงปลายปี 1971 มาสด้า RX-3กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ GT-R

ข้อมูลอื่นๆ
โมเดลต่างๆ
-1500 - 1.5 L G-15 I4 88 แรงม้า แรงบิด128นิวตัน-เมตร
-1500 - 1.5 L G-15 I4 95 แรงม้า แรงบิด128นิวตัน-เมตร
-1800 - 1.8 ลิตรG-18 I4 105 แรงม้า แรงบิด150นิวตัน-เมตร
-2000GT - 2.0 L L20 I6 , 130 แรงม้า แรงบิด167นิวตัน-เมตร
-2000GT-R - 2.0 L S20 I6 , 160 แรงม้า แรงบิด180นิวตัน-เมตร
รูปแบบบอดี้ต่างๆ
- C-10 ซีดาน 4 ประตูหรือ 5 ประตูแวก้อน 1968
- GC-10 2000GT 4 ประตู 1969
- PGC-10 4 ประตู GT-R Skyline 1969
- KPGC-10 2 ประตู GT-R Skyline 1970
- KGC-10 2000GT-X 2ประตู 1971
- KGC-10 2000GT-X 4ประตู 1972
- HGLC10 2000 / 2400GT 4 ประตูพวงมาลัยซ้าย
จำนวนการขาย 310,447 คัน
ผู้ออกแบบ Shinichiro Sakurai



ที่มา : 
http://albania007duluck.blogspot.com/
https://www.facebook.com/datsunthailandclub/posts/1005778819451505