ซีรีส์ C10 เริ่มขึ้นในปี1968 เริ่มพัฒนาภายใต้บริษัท ปรินซ์ ที่ Ogikubo R&D ในเขตชานเมืองของกรุงโตเกียว และทำตลาดภายใต้ชื่อนิสสัน
ในช่วงเวลาที่C10ออกจำหน่าย ชื่อของปรินซ์ก็ค่อยหายไปทั้งในรถเก๋งและรถบรรทุก สกายไลน์ C10 เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ G15 1.5ลิตร OHC และเครื่อง G18 1.8ลิตร ด้วย รุ่นสเตชั่นวาก้อนที่รู้จักก่อนหน้านี้ในชื่อ ปรินซ์ สกายเวย์ (Prince Skyway) ก็ถูกนำเสนอในช่วงนี้ด้วย
รุ่นคูเป้ฮาร์ดท็อปถูกนำเสนอในเดือนตุลาคม 1970 ไฟท้ายมีการแก้ไขจากเดิมที่เป็นสีเหลี่ยนชิ้นเดียว เป็นไฟท้ายสี่เหลี่ยมคู่ในแต่ละข้าง ในฐานะที่สกายไลน์เป็นผลิตภัณฑ์ของนิสสัน มันถูกจัดระดับไว้เหนือกว่า บลูเบิร์ด โดยเป็นสปอร์ตคูเป้โดยแท้ ในขณะที่บลูเบิร์ดนั้นยังคงเน้นไปทางความประหยัดมากกว่า
นิสสัน สกายไลน์ C10 ซีรีส์ 1500
ซีรีส์1500 แทนที่ S50 ในเดือนกรกฎาคมปี 1968 รวมถึงรุ่น1800ที่มาในภายหลัง มันถูกสร้างขึ้นจนกระทั่งปี 1972 มีจำหน่ายในซีดาน 4 ประตูและแวน Skyline C10 1500 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ 1,483ซีซี G15 1 จากรุ่น S57 ก่อนหน้านี้ ผลิตกำลัง 94 แรงม้าและแรงบิด130นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น 1800 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์1,815 ซีซี G18 กับ 105 แรงม้าและแรงบิด147นิวตัน-เมตร รถคันนี้ส่วนใหญ่ใช้ชิ้นส่วนจากปรินซ์และมันเป็น Skyline รุ่นสุดท้ายที่จะออกมาพร้อมกับโลโก้ปรินซ์ Skylineต่อจากนี้ทุกคันจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นนิสสัน
ซีรีส์1500 แทนที่ S50 ในเดือนกรกฎาคมปี 1968 รวมถึงรุ่น1800ที่มาในภายหลัง มันถูกสร้างขึ้นจนกระทั่งปี 1972 มีจำหน่ายในซีดาน 4 ประตูและแวน Skyline C10 1500 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ 1,483ซีซี G15 1 จากรุ่น S57 ก่อนหน้านี้ ผลิตกำลัง 94 แรงม้าและแรงบิด130นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น 1800 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์1,815 ซีซี G18 กับ 105 แรงม้าและแรงบิด147นิวตัน-เมตร รถคันนี้ส่วนใหญ่ใช้ชิ้นส่วนจากปรินซ์และมันเป็น Skyline รุ่นสุดท้ายที่จะออกมาพร้อมกับโลโก้ปรินซ์ Skylineต่อจากนี้ทุกคันจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นนิสสัน
นิสสัน สกายไลน์ GC10 2000GT
เริ่มแนะนำในปี1968 (2 เดือนหลังจากซีรีส์ 1500) เริ่มแรกมาในรูปแบบรถซีดาน 4 ประตู (GC10) และรุ่นรถ 5 ประตู และในปี1970 ก็มีรุ่น2ประตู (KGC10) ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์2.0ลิตร L20 6สูบแถวเรียง 105แรงม้า เหมือนกับนิสสัน เซดริค แทนเครื่องยนต์ปรินซ์ G7 แชสซีได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้พอดีกับเครื่องยนต์ที่ยาวขึ้น
เริ่มแนะนำในปี1968 (2 เดือนหลังจากซีรีส์ 1500) เริ่มแรกมาในรูปแบบรถซีดาน 4 ประตู (GC10) และรุ่นรถ 5 ประตู และในปี1970 ก็มีรุ่น2ประตู (KGC10) ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์2.0ลิตร L20 6สูบแถวเรียง 105แรงม้า เหมือนกับนิสสัน เซดริค แทนเครื่องยนต์ปรินซ์ G7 แชสซีได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้พอดีกับเครื่องยนต์ที่ยาวขึ้น
นิสสัน สกายไลน์ GC10 2000GT-X
2000 GT-X ปรากฏตัวในเดือนกันยายนปี 1971 และได้รับการขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์คาร์บุเรเตอร์คู่ รหัสเครื่อง L20T ผลิตกำลัง130แรงม้า 2000 GT-X ที่ทั้งรูปแบบซีดานและคูเป้2ประตู และติดตั้งกระจกประตูแบบไฟฟ้าเป็นมาตรฐาน
2000 GT-X ปรากฏตัวในเดือนกันยายนปี 1971 และได้รับการขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์คาร์บุเรเตอร์คู่ รหัสเครื่อง L20T ผลิตกำลัง130แรงม้า 2000 GT-X ที่ทั้งรูปแบบซีดานและคูเป้2ประตู และติดตั้งกระจกประตูแบบไฟฟ้าเป็นมาตรฐาน
นิสสัน สกายไลน์ PGC10 - KPGC10 2000 GT-R
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี1969 ได้เปิดตัว PGC10 ในรูปแบบ4ประตูซีดานเท่านั้น และ2ปีต่อมาในเดือนมีนาคม 1971 จึงเปิดตัวรุ่น2ประตูคูเป้ KPGC10 ตามออกมา โดยมันถูกเรียกว่า Hakosuka โดยแฟนๆของสกายไลน์ คำว่า”Hako” หมายความว่า”กล่อง”ในภาษาญี่ปุ่น(ประมาณรถทรงกล่อง) ส่วนคำว่า “suka” คือชื่อเรียกสั้นๆของสกายไลน์ (คนญี่ปุ่นจะออกเสียง Skyline ว่า Sukairain)
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี1969 ได้เปิดตัว PGC10 ในรูปแบบ4ประตูซีดานเท่านั้น และ2ปีต่อมาในเดือนมีนาคม 1971 จึงเปิดตัวรุ่น2ประตูคูเป้ KPGC10 ตามออกมา โดยมันถูกเรียกว่า Hakosuka โดยแฟนๆของสกายไลน์ คำว่า”Hako” หมายความว่า”กล่อง”ในภาษาญี่ปุ่น(ประมาณรถทรงกล่อง) ส่วนคำว่า “suka” คือชื่อเรียกสั้นๆของสกายไลน์ (คนญี่ปุ่นจะออกเสียง Skyline ว่า Sukairain)
มันถูกออกแบบด้วยความคิดที่จะนำมาใช้ในการแข่งขัน ด้วยประสิทธิภาพและชัยชนะหลายครั้งทำให้มันสร้างชื่อ “Skyline GT-R legend”ที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้
สิ่งสำคัญที่สุดของความสำเร็จในการแข่งขันของGT-Rคือเครื่องยนต์ S20 2.0ลิตร 1,989ซีซี DOHC 24วาล์ว 6สูบแถวเรียง 160 แรงม้า ติดตั้งคาร์บูเรเตอร์WEBER 40DCOE 3ชุด ซึ่งมีความคล้ายกับเครื่องยนต์GR8ของรถแข่งR380 ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์5สปีด หากแทนที่ด้วยชุดหัวฉีดกลไลของลูคัสจะทำให้เพิ่มกำลังได้ถึง230-250แรงม้า
ระบบช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัทในด้านหน้าและเซมิเทรลลิ่งอาร์มในด้านหลัง ทำให้GT-Rสามารถใช้ประสิทธิภาพของกำลังของเครื่องยนต์ บนถนนได้อย่างเต็มที่
ในการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับGC10คือซุ้มล้อหลังที่มีขนาดกว้างขึ้น ซึ่งทำให้ “Surfline”ด้านข้างรถนั้นขาดหายไปบ้าง(เส้นสันบริเวณซุ้มล้อหลัง) และสัญลักษณ์GTที่ติดบนตัวรถก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากเดิมสีฟ้าในรุ่นGC10
ในการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับGC10คือซุ้มล้อหลังที่มีขนาดกว้างขึ้น ซึ่งทำให้ “Surfline”ด้านข้างรถนั้นขาดหายไปบ้าง(เส้นสันบริเวณซุ้มล้อหลัง) และสัญลักษณ์GTที่ติดบนตัวรถก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากเดิมสีฟ้าในรุ่นGC10
ในวันที่7 มีนาคม 1971 KPGC10 รุ่น2ประตูคูเป้ของGT-R ได้เปิดตัวขึ้น สำหรับบอดี้นี้จะมีฐานล้อที่สั้นกว่าจาก103.9นิ้ว(2,640มม.)เป็น101.2นิ้ว(2,570มม.)และนำหนักลดลง20กก. เนื่องจากต้องการประสิทธิภาพจึงปรับปรุงในเรื่องแอโร่ไดนามิกส์ โดยมีการติดตั้งสปอยเลอร์หลังเป็นออฟชั่นด้วย การควบคุมรถนั้นเหนือกว่ารุ่นPGC10 เพราะใช้ยางที่ใหญ่และกว้างขึ้นจึงต้องมีการขยายความกว้างซุ้มล้อออกไปอีก
ในรุ่น4ประตู PGC10 นั้นมีอาการอันเดอร์สเตียร์มาก ซึ่งเกิดจากฐานล้อที่ยาวและยางมีความยึดเกาะต่ำ ในการแข่งขันนักแข่งต้องเบรคอย่างรุนแรงในโค้งเพื่อให้รถมีอาการท้ายรถออกข้างเพื่อการเข้าโค้งในลักษณะการดริฟท์ ซึ่งดูสวยงามน่าตื่นเต้นเป้นที่ชื่นชอบของแฟนๆสกายไลน์ แต่ความตื่นเต้นนั้นกลับทำให้นักแข่งต้องเหนื่อยมากขึ้นและมันไม่ได้ทำให้รถวิ่งเร็วขึ้นเลย
นิสสันจึงต้องแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้วยการขยายความกว้างและลดระยะฐานล้อลง ทำให้มันเร็วกว่าPGC10และเพิ่มจำนวนชัยชนะในบัญชีของGT-R
รถแข่งGT-R ในรูปแบบ4ประตูซีดานคว้าชัยชนะได้33ครั้ง ภายในช่วงเวลา2ปี และรุ่น2ประตูคูเป้ก็คว้าชัยชนะต่อเนื่องได้อีกจนถึง50ครั้ง และการผลิตก็หยุดลงในปี 1972
C10 แข่งกับรถหลายคันรวมทั้ง โตโยต้าโคโรน่า 1600GT (RT55) , อีซูซุ Bellett GTR, มาสด้า Familia (R100) และCapella ( RX-2 ) หรือแม้กระทั่งพอร์ช ในช่วงปลายปี 1971 มาสด้า RX-3กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ GT-R
ข้อมูลอื่นๆ
โมเดลต่างๆ
-1500 - 1.5 L G-15 I4 88 แรงม้า แรงบิด128นิวตัน-เมตร
-1500 - 1.5 L G-15 I4 95 แรงม้า แรงบิด128นิวตัน-เมตร
-1800 - 1.8 ลิตรG-18 I4 105 แรงม้า แรงบิด150นิวตัน-เมตร
-2000GT - 2.0 L L20 I6 , 130 แรงม้า แรงบิด167นิวตัน-เมตร
-2000GT-R - 2.0 L S20 I6 , 160 แรงม้า แรงบิด180นิวตัน-เมตร
รูปแบบบอดี้ต่างๆ
- C-10 ซีดาน 4 ประตูหรือ 5 ประตูแวก้อน 1968
- GC-10 2000GT 4 ประตู 1969
- PGC-10 4 ประตู GT-R Skyline 1969
- KPGC-10 2 ประตู GT-R Skyline 1970
- KGC-10 2000GT-X 2ประตู 1971
- KGC-10 2000GT-X 4ประตู 1972
- HGLC10 2000 / 2400GT 4 ประตูพวงมาลัยซ้าย
จำนวนการขาย 310,447 คัน
ผู้ออกแบบ Shinichiro Sakurai
ที่มา :
http://albania007duluck.blogspot.com/
https://www.facebook.com/datsunthailandclub/posts/1005778819451505